Background



ข่าวประชาสัมพันธ์
อบต.เกาะจันร่วมรณรงค์ประชาชนร่วมกันลด ละ เลิกบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบหรี่โลก วันที่ 31 พฤษภาคม 2567
27 พฤษภาคม 2567

318


วันงดสูบบุหรี่โลก 2567 : ทำลายสมอง ก่อมะเร็ง ร่วมปกป้องเยาวชนจาก "บุหรี่ไฟฟ้า"

31 พ.ค.ของทุกปีถือเป็น "วันงดสูบบุหรี่โลก" วันสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของการเลิกบุหรี่และผลกระทบของยาสูบ WHO กำหนดธีมวันงดสูบบุหรี่โลกปี 2567 คือ ปกป้องเด็กจากการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบ ส่วนของไทยคือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า"

12 เหตุผลที่ต้องกัน "บุหรี่ไฟฟ้า" ออกจากเด็ก-เยาวชน

  1. บุหรี่ไฟฟ้ามี "นิโคติน" สารเสพติดตัวเดียวกับบุหรี่ธรรมดา จะนำไปสู่การเสพติดนิโคติด "ติดแล้วเลิกยาก" และส่วนใหญ่ร้อยละ 75 จะติดไปตลอดชีวิต
  2. นิโคตินจัดเป็นสารพิษที่ถูกกฎหมายโดยกฎหมายควบคุมยาพิษ (Poison Act) ในหลายประเทศ ในอดีตนิโคตินถูกใช้เป็นยาฆ่าแมลง ปัจจุบันกฎหมายห้ามใช้แล้ว
  3. ในไอบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีสารก่อมะเร็ง โลหะหนักและสารเคมีอีกมากมาย ที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรในระยะยาว
  4. บุหรี่ไฟฟ้าทำให้หลอดเลือดตีบ, ตับ, แตก, ตาย อันตรายต่อเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจและปอด มีรายงานวัยรุ่นที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าติดต่อกันเกิดโรค EVALI ปอดอักเสบรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยงในคนอายุน้อย
  5. ควันบุหรี่ไฟฟ้าทั้งมือหนึ่ง มือสองและสาม มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ ทำให้มีความผิดปกติของระบบประสาท เป็นโรคสมาธิสั้น น้ำหนักแรกเกิดน้อย โดยเฉพาะสมองที่กำลังพัฒนาของเด็กและเยาวชนอายุถึง 25 ปี ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงมากกว่าเด็กที่ไม่สูบ 3-4 เท่า
  6. ร้อยละ 53 ของวัยรุ่นไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีภาวะซึมเศร้าเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
  7. บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรหัสพันธุกรรมของเซลล์ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ บุหรี่ไฟฟ้าพบทำให้เกิดมะเร็งปอดในหมูทดลองแล้ว
  8. องค์การอนามัยโลกกำหนดการเสพนิโคตินไว้ว่า เป็นโรคพึ่งพานิโคติน (Nicotine Dependence Disorder) คนที่เลิกเองไม่ได้ต้องได้รับการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์
  9. นิโคตินมีผลต่อสมองของวัยรุ่น ทำให้พร้อมที่จะรับและติดสิ่งเสพติดชนิดอื่น เช่น แอลกอฮอล์ เฮโรอีน โคเคน กัญชา เพิ่มขึ้นหลายเท่า
  10. เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีความเสี่ยงที่จะเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ธรรมดามากกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบ 2-4 เท่า (Gateway Effect)
  11. WHO ประเมินว่าควันบุหรี่มือสองและสาม คร่าชีวิตเด็กทั่วโลกมากถึง 65,000 คน/ปี การสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2564 พบว่าร้อยละ 23.7 ของคนสูบบุหรี่สูบในบ้าน ทำให้เด็กได้รับควันบุหรี่มือสองและสามในบ้าน 
  12. อังเดร คาลานท์ โซพอลอส อดีต CEO บ.ฟิลลิป มอร์ริส ที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าพูดว่า นิโคตินเสพติดและอันตราย โดยเฉพาะวัยรุ่น "ผมมีความชัดเจนเกิดขึ้นกับลูก ๆ ของผม อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีนิโคติน"